• ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น - ครูมนิดา บุญยัสสะ
    โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ เลขที่ 10 ถ. นาเชือก-พยัคฆภูมิพิสัย ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม 44170

แผนการจัดการเรียนรู้รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ รายวิชาช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น


แผนการจัดการเรียนรู้
รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ รายวิชาช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓
 
 
ผู้สอน
นางสาวมนิดา  บุญยัสสะ
ครูผู้ช่วย
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
 
 
โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์
อำเภอนาเชือก   จังหวัดมหาสารคาม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  เขต ๒๖

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
 
 
 
สารบัญ
เรื่อง หน้า
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช  ๒๕๕๑…………………………………..
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี………
ตามหลักสูตรการศึกษาแกนกลาง  พุทธศักราช  ๒๕๕๑
๑๓
การจัดทำคำอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗   รายวิชาช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น……… ๑๕
โครงสร้างรายวิชา  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น ...................................... ๑๗
กำหนดการเรียนรู้  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗  ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น  ..................................... ๑๘
เกณฑ์การประเมินผล...................................................................................................................... ๒๑
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช  ๒๕๕๑
 
วิสัยทัศน์
      หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน  ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย  ความรู้  คุณธรรม  มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก  ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  มีความรู้และทักษะพื้นฐาน  รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต  โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า  ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ
 
หลักการ
      หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มีหลักการที่สำคัญ  ดังนี้
                    ๑.  เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ  มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้  เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้  ทักษะ  เจตคติ  และคุณธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล
          ๒.  เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน  ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคและมีคุณภาพ
          ๓.  เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ  ให้สังคมมีส่วนร่วม
ในการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น
          ๔.  เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้  เวลาและการจัดการเรียนรู้
          ๕.  เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
          ๖.  เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ  นอกระบบ  และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย  สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้  และประสบการณ์
 
จุดหมาย
                หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี  มีปัญญา  
มีความสุข  มีศักยภาพในการศึกษาต่อ  และประกอบอาชีพ  จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน    เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ดังนี้
          ๑.  มีคุณธรรม  จริยธรรม  และค่านิยมที่พึงประสงค์  เห็นคุณค่าของตนเอง  มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา  หรือศาสนาที่ตนนับถือ  ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
          ๒.  มีความรู้  ความสามารถในการสื่อสาร  การคิด  การแก้ปัญหา  การใช้เทคโนโลยี       และมีทักษะชีวิต
          ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี  มีสุขนิสัย  และรักการออกกำลังกาย

          ๔.  มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก  ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
          ๕.  มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย  การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม  มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม  และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
 
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
                หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้  ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ  5  ประการ  ดังนี้
                    ๑ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร  มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด  ความรู้ความเข้าใจ  ความรู้สึก  และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม  รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ  การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง  ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร  ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
                    ๒ความสามารถในการคิด  เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์  การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณ  และการคิดเป็นระบบ  เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
          ๓.  ความสามารถในการแก้ปัญหา  เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ    ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล  คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ                  เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ  ในสังคม แสวงหาความรู้  ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา  และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง  สังคมและสิ่งแวดล้อม
                    ๔.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  เป็นความสามารถในการนำกระบวนการ
ต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน  การเรียนรู้ด้วยตนเอง  การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง  การทำงาน        และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล  การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ  อย่างเหมาะสม  การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม         และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
          ๕ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  เป็นความสามารถในการเลือก  และใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ  และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี  เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม
ในด้านการเรียนรู้  การสื่อสาร  การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม
 
 
 
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
      หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์    เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข  ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก  ดังนี้
         ๑.  รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
         ๒.  ซื่อสัตย์สุจริต
         ๓.  มีวินัย
         ๔.  ใฝ่เรียนรู้
         ๕.  อยู่อย่างพอเพียง
         ๖.  มุ่งมั่นในการทำงาน
         ๗.  รักความเป็นไทย
         ๘.  มีจิตสาธารณะ
 
มาตรฐานการเรียนรู้
                การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล  ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา  หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  จึงกำหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้  8  กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้
          ๑.  ภาษาไทย
          ๒.  คณิตศาสตร์
          ๓.  วิทยาศาสตร์
          ๔.  สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
          ๕.  สุขศึกษาและพลศึกษา
          ๖.  ศิลปะ
          ๗.  การงานอาชีพและเทคโนโลยี
          ๘.  ภาษาต่างประเทศ
      ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน  มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้  ปฏิบัติได้  มีคุณธรรมจริยธรรม  และค่านิยมที่พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน  นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญ  ในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ  เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร  จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร  รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก  ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา  และการทดสอบระดับชาติ  ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามที่มาตรฐานการเรียนรู้กำหนดเพียงใด
 
 
สาระการเรียนรู้ 
      สาระการเรียนรู้  ประกอบด้วย  องค์ความรู้  ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้  และคุณลักษณะ    ที่พึงประสงค์  ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจำเป็นต้องเรียนรู้  โดยแบ่งเป็น  ๘     กลุ่มสาระการเรียนรู้  ดังนี้  ภาษาไทย  คณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์   สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม       สุขศึกษาและพลศึกษา  ศิลปะ  การงานอาชีพและเทคโนโลยี  และภาษาต่างประเทศ
 
ตัวชี้วัด
      ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้  รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น      ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้  มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม  นำไปใช้ในการกำหนดเนื้อหา  จัดทำหน่วยการเรียนรู้  จัดการเรียนการสอน  และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน
          ๑.  ตัวชี้วัดชั้นปี  เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษา
ภาคบังคับ (ประถมศึกษาปีที่ ๑ – มัธยมศึกษาปีที่ ๓)
          ๒.  ตัวชี้วัดช่วงชั้น  เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖)
 
ระดับการศึกษา
      หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  จัดระดับการศึกษาเป็น  ๓  ระดับ  ดังนี้
                    ๑.  ระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖)  การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาคบังคับ  มุ่งเน้นทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน  การเขียน  การคิดคำนวณ  ทักษะการคิดพื้นฐาน  การติดต่อสื่อสาร  กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม  และพื้นฐานความเป็นมนุษย์  การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์และสมดุลทั้งในด้านร่างกาย  สติปัญญา  อารมณ์  สังคม และวัฒนธรรม  โดยเน้นจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
          ๒.  ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓)  เป็นช่วงสุดท้าย
ของการศึกษาภาคบังคับ  มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้สำรวจความถนัดและความสนใจของตนเอง  ส่งเสริมการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตน  มีทักษะในการคิดวิจารณญาณ  คิดสร้างสรรค์  และคิดแก้ปัญหา  
มีทักษะในการดำเนินชีวิต  มีทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้  มีความรับผิดชอบต่อสังคม  มีความสมดุลทั้งด้านความรู้  ความคิด  ความดีงาม  และมีความภูมิใจในความเป็นไทย  ตลอดจนใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพหรือการศึกษาต่อ
                    ๓ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖)  การศึกษาระดับนี้เน้นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะด้าน  สนองตอบความสามารถ  ความถนัด  และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคนทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ  มีทักษะในการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี  ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง  สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ  มุ่งพัฒนาตนและประเทศตามบทบาทของตน  สามารถเป็นผู้นำ และผู้ให้บริการชุมชนในด้านต่าง ๆ
 
การจัดเวลาเรียน
      หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ได้กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่ำสำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้  ๘ กลุ่ม  และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  ซึ่งสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได้ตามความพร้อมและจุดเน้นโดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสภาพของผู้เรียน  ดังนี้
                    ๑.  ระดับชั้นประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖)  ให้จัดเวลาเรียนเป็น
รายปี  โดยมีเวลาเรียนวันละไม่เกิน  5  ชั่วโมง
                    ๒.  ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓)  ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค     มีเวลาเรียนวันละไม่เกิน  ๖  ชั่วโมง  คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต  ใช้เกณฑ์  ๔๐ ชั่วโมงต่อภาคเรียน มีค่าน้ำหนักวิชา เท่ากับ ๑ หน่วยกิต (นก.)
          ๓.  ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ 6) ให้จัดเวลาเรียนเป็น
รายภาค  มีเวลาเรียน  วันละไม่น้อยกว่า  ๖  ชั่วโมง  คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต
ใช้เกณฑ์  ๔๐  ชั่วโมง  ต่อภาคเรียน  มีค่าน้ำหนักวิชา  เท่ากับ  1  หน่วยกิต (นก.)
 
การจัดการเรียนรู้
                การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ  หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้  สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน  เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร  กระบวนการเรียนรู้  จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร  8  กลุ่มสาระการเรียนรู้  รวมทั้งปลูกฝังเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทักษะต่างๆ  อันเป็นสมรรถนะสำคัญให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมาย
  1. หลักการจัดการเรียนรู้
                        การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ  และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน            โดยยึดหลักว่า  ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด  เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้  ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน  กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน  สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ  คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง  เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม
         
 
 
      ๒.  กระบวนการเรียนรู้
                    การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้              ที่หลากหลาย  เป็นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร  กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน  อาทิ  กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ  กระบวนการสร้างความรู้  กระบวนการคิด  กระบวนการทางสังคม  กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา  กระบวนการเรียนรู้  จากประสบการณ์จริง  กระบวนการปฏิบัติ  ลงมือทำจริง  กระบวนการจัดการ  กระบวนการวิจัย  กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง  กระบวนการพัฒนาลักษณะนิสัย
          กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา  เพราะจะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี  บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร  ดังนั้น  ผู้สอน  จึงจำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ  เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      ๓.  การออกแบบการจัดการเรียนรู้
                    ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้  ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  คุณลักษณะอันพึงประสงค์  และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน  แล้วจึงพิจารณาออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน  สื่อ/แหล่งเรียนรู้  การวัดและประเมินผล  เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด
                ๔.  บทบาทของผู้สอนและผู้เรียน
                     การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร  ทั้งผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท  ดังนี้
    ๔.๑  บทบาทของผู้สอน
                            ๑)  ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ท้าทายความสามารถของผู้เรียน
        ๒)  กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน  ด้านความรู้และทักษะ
กระบวนการ  ที่เป็นความคิดรวบยอด  หลักการ  และความสัมพันธ์  รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์
                            ๓)  ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง  เพื่อนำผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย
       ๔)  จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้  และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้
                            ๕)  จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม  นำภูมิปัญญาท้องถิ่น  เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
       ๖)  ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย  เหมาะสมกับธรรมชาติของวิชาและระดับพัฒนาการของผู้เรียน
       ๗)  วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน  รวมทั้งปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง
    ๔.๒  บทบาทของผู้เรียน
            ๑)  กำหนดเป้าหมาย  วางแผน  และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง
            ๒)  เสาะแสวงหาความรู้  เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้  วิเคราะห์  สังเคราะห์
ข้อความรู้  ตั้งคำถาม  คิดหาคำตอบหรือหาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆ
                                ๓)  ลงมือปฏิบัติจริง  สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง  และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
                      ๔)  มีปฏิสัมพันธ์  ทำงาน  ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มและครู
                      ๕)  ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง
 
สื่อการเรียนรู้
      สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้  ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้  ทักษะกระบวนการ  และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ               สื่อการเรียนรู้มีหลากหลายประเภท  ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์  สื่อเทคโนโลยีและเครือข่ายการเรียนรู้ต่างๆ     ที่มีในท้องถิ่น  การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ  และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรียน
      การจัดหาสื่อการเรียนรู้  ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง  หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมีคุณภาพจากสื่อต่างๆ  ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้  โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง  เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน          เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง  สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ควรดำเนินการดังนี้
                        ๑.  จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้  ศูนย์สื่อการเรียนรู้  ระบบสารสนเทศการเรียนรู้  และเครือข่ายการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน  เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้  ระหว่างสถานศึกษา  ท้องถิ่น  ชุมชน  สังคมโลก
                        ๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้งจัดหาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้
                        ๓.  เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ  มีความเหมาะสม  มีความหลากหลาย     สอดคล้อง กับวิธีการเรียนรู้  ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้  และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน
                        ๔.  ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ
                        ๕.  ศึกษาค้นคว้า  วิจัย  เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
                        ๖.  จัดให้มีการกำกับ  ติดตาม  ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อการเรียนรู้เป็นระยะๆ  และสม่ำเสมอ
          ในการจัดทำ  การเลือกใช้  และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา           ควรคำนึงถึงหลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้  เช่น  ความสอดคล้องกับหลักสูตร  วัตถุประสงค์การเรียนรู้  การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้  การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน  เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย            ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ  ไม่ขัดต่อศีลธรรม  มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง  รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และน่าสนใจ
 
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
                    การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน  ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ประสบผลสำเร็จนั้น  ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้  สะท้อนสมรรถนะสำคัญ  และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน  ระดับสถานศึกษา  ระดับเขตพื้นที่การศึกษา  และระดับชาติ  การวัดและประเมินผลการเรียนรู้  เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ  ความก้าวหน้า  และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน  ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิด การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ
                    การวัดและประเมินผลการเรียนรู้  แบ่งออกเป็น  ๔  ระดับ  ได้แก่  ระดับชั้นเรียน        ระดับสถานศึกษา  ระดับเขตพื้นที่การศึกษา  และระดับชาติ  มีรายละเอียด  ดังนี้
                  ๑.  การประเมินระดับชั้นเรียน  เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้  ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ  ในการจัดการเรียนการสอน  ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย  เช่น  การซักถาม  การสังเกต  การตรวจการบ้าน  การประเมินโครงงาน  การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน  แฟ้มสะสมงาน  การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ  โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาส  ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง  เพื่อนประเมินเพื่อน  ผู้ปกครองร่วมประเมิน  ในกรณีที่ไม่ผ่านตัวชี้วัดให้มีการสอนซ่อมเสริม
                        การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า  ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้  อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่  และมากน้อยเพียงใด  มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด  นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
              ๒.  การประเมินระดับสถานศึกษา  เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การเรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค  ผลการประเมินการอ่าน  คิดวิเคราะห์และเขียน  คุณลักษณะอันพึงประสงค์  และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา     ว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่  ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด  รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ  ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย  หลักสูตร  โครงการ  หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน                ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา  ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ผู้ปกครองและชุมชน
                        ๓.  การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา  เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน     ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
                        ๔การประเมินระดับชาติ  เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน                  ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓  ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓  และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖               เข้ารับการประเมิน  ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ       เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา  ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน  การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ  ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ  ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา                    ในการตรวจสอบทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน  ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ  ปรับปรุงแก้ไข  ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐาน                                   ความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ  ได้แก่  กลุ่มผู้เรียนทั่วไป           กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ  กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ  กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม  กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน  กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม  กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา  เป็นต้น  ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที  เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการเรียน
                        สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา  จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ตามหลักสูตรการศึกษาแกนกลาง  พุทธศักราช  ๒๕๕๑
 
ทำไมต้องเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี
          กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  เป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียน
มีความรู้  ความเข้าใจ  มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต  และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง
สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต  การอาชีพ  และเทคโนโลยี  มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
อย่างมีความคิดสร้างสรรค์  และแข่งขันในสังคมไทยและสากล  เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
รักการทำงาน  และมีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน  สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง
และมีความสุข
 
เรียนรู้อะไรในการงานอาชีพและเทคโนโลยี
          กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  มุ่งพัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวม  เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ  มีทักษะในการทำงาน  เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพและการศึกษาต่อ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยมีสาระสำคัญ  ดังนี้
          การดำรงชีวิตและครอบครัว  เป็นสาระเกี่ยวกับการทำงานในชีวิตประจำวัน  ช่วยเหลือตนเอง  ครอบครัว  และสังคมได้ในสภาพเศรษฐกิจที่พอเพียง  ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม  เน้นการปฏิบัติจริงจนเกิดความมั่นใจและภูมิใจในผลสำเร็จของงาน  เพื่อให้ค้นพบความสามารถ  ความถนัด  และความสนใจของตนเอง
          การออกแบบและเทคโนโลยี  เป็นสาระเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถของมนุษย์อย่างสร้างสรรค์  โดยนำความรู้มาใช้กับกระบวนการเทคโนโลยี  สร้างสิ่งของเครื่องใช้  วิธีการ  หรือเพิ่มประสิทธิภาพ            ในการดำรงชีวิต
          เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  เป็นสาระเกี่ยวกับกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ         การติดต่อสื่อสาร  การค้นหาข้อมูล  การใช้ข้อมูลและสารสนเทศ  การแก้ปัญหาหรือการสร้างงาน
คุณค่าและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
          การอาชีพ  เป็นสาระเกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพ  เห็นความสำคัญของคุณธรรม จริยธรรม      และเจตคติที่ดีต่ออาชีพ  ใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสม  เห็นคุณค่าของอาชีพสุจริตและเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ 
 
 
 
 
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๑  การดำรงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน  ง ๑.๑          เข้าใจการทำงาน  มีความคิดสร้างสรรค์  มีทักษะกระบวนการทำงาน  ทักษะการจัดการ  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา  ทักษะการทำงานร่วมกัน  และทักษะการแสวงหาความรู้     มีคุณธรรม  และลักษณะนิสัยในการทำงาน  มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน  ทรัพยากร  และสิ่งแวดล้อม       เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว
สาระที่  ๒  การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง ๒.๑           เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี  ออกแบบและสร้างสิ่งของเครื่องใช้ หรือวิธีการ  ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์  เลือกใช้เทคโนโลยีในทางสร้างสรรค์ต่อชีวิต  สังคม  สิ่งแวดล้อม  และมีส่วนร่วมในการจัดการเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
สาระที่  ๓  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
มาตรฐาน  ง ๓.๑          เข้าใจ  เห็นคุณค่า  และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรียนรู้  การสื่อสาร  การแก้ปัญหา  การทำงาน  และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ  ประสิทธิผล     และมีคุณธรรม
สาระที่  ๔  การอาชีพ
มาตรฐาน ง ๔.๑           เข้าใจ  มีทักษะที่จำเป็น  มีประสบการณ์  เห็นแนวทางในงานอาชีพ       ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ  มีคุณธรรม  และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ
 
คุณภาพผู้เรียน
          จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
                    เข้าใจกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ  ใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน  มีทักษะ การแสวงหาความรู้  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา  และทักษะการจัดการ  มีลักษณะนิสัยการทำงาน
ที่เสียสละ  มีคุณธรรม  ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง  และมีจิตสำนึกในการใช้พลังงานทรัพยากร  และสิ่งแวดล้อมอย่างประหยัดและคุ้มค่า
                    เข้าใจกระบวนการเทคโนโลยีและระดับของเทคโนโลยี  มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ  สร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการตามกระบวนการเทคโนโลยี  อย่างถูกต้องและปลอดภัย  โดยถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉายเพื่อนำไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือแบบจำลองความคิดและการรายงานผล  เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิต  สังคม สิ่งแวดล้อม  และมีการจัดการเทคโนโลยีด้วยการลดการใช้ทรัพยากร  หรือเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
                    เข้าใจหลักการเบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูล  เครือข่ายคอมพิวเตอร์  หลักการและวิธีแก้ปัญหา  หรือการทำโครงงานด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  มีทักษะการค้นหาข้อมูล  และการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม  การใช้คอมพิวเตอร์
ในการแก้ปัญหา  สร้างชิ้นงานหรือโครงงานจากจินตนาการ  และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน
                    เข้าใจแนวทางการเลือกอาชีพ การมีเจตคติที่ดีและเห็นความสำคัญของการประกอบอาชีพ  คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับวิธีการหางานทำ  คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการมีงานทำ  วิเคราะห์แนวทางเข้าสู่อาชีพ  มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพ  และประสบการณ์ต่ออาชีพ
ที่สนใจ  และประเมินทางเลือกในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความรู้  ความถนัด  และ
ความสนใจ
          จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
                    เข้าใจวิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต  สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์  มีทักษะ                 การทำงานร่วมกัน  ทักษะการจัดการ  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา  และทักษะการแสวงหาความรู้ ทำงานอย่างมีคุณธรรม  และมีจิตสำนึกในการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
                    เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่นๆ  วิเคราะห์ระบบเทคโนโลยี                    มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ  สร้างและพัฒนาสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการ  ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยโดยใช้ซอฟท์แวร์ช่วยในการออกแบบหรือนำเสนอผลงาน  วิเคราะห์และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ต่อชีวิต  สังคม  สิ่งแวดล้อม  และมีการจัดการเทคโนโลยีด้วยวิธีการของเทคโนโลยีสะอาด
                    เข้าใจองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ  องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์  ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์  คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง  และมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา  เขียนโปรแกรมภาษา  พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์  ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์  ติดต่อสื่อสารและค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต
ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ  ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองาน  และใช้คอมพิวเตอร์สร้างชิ้นงานหรือโครงงาน
                    เข้าใจแนวทางสู่อาชีพ  การเลือก  และใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ
มีประสบการณ์ในอาชีพที่ถนัดและสนใจ  และมีคุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
การจัดทำคำอธิบายรายวิชา
แบบวิเคราะห์ตัวชี้วัดเพื่อจัดทำคำอธิบาย  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗   รายวิชาช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ คำสำคัญ  (key  word) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
เนื้อหา/ความรู้ กระบวนการ/กริยา คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
๑. อธิบายวิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต
๒. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และมีทักษะการทำงานร่วมกัน
๓. มีทักษะการจัดการในการทำงาน
๔. มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน
๕. มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการดำรงชีวิต
๖. มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน
๗. ใช้พลังงาน ทรัพยากรในการทำงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๘. มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการในงานที่ผลิตเอง หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่นผลิต
ชนิดและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุท้องถิ่น
เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานประดิษฐ์การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
การเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม
การคิดคำนวณราคาค่าใช้จ่าย
การกำหนดราคาขายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
 
ศึกษา  ค้นคว้า  รวบรวม  สังเกต  สำรวจ  วิเคราะห์  อภิปราย 
ฝึกปฏิบัติ  และ
บันทึกการทำงานที่จำเป็น
มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
 
0 ความสามารถในการสื่อสาร
0 ความสามารถในการคิด
0 ความสามารถในการแก้ปัญหา
0 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
0 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
 
       
 
 
 
 
 
 
 
คำอธิบายรายวิชา
รหัสวิชา  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น           กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  ภาคเรียนที่  ๒                              เวลา  ๔๐  ชั่วโมง  จำนวน  ๑  หน่วยกิต
            ศึกษาชนิดและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุท้องถิ่น การใช้เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ในการทำงาน สามารถทำงานด้วยความปลอดภัย การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น การเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม การตกแต่งชิ้นงานที่สำเร็จ การคิดคำนวณราคาค่าใช้จ่าย กำหนดราคาขายและสามารถจัดจำหน่ายได้ เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ  ซื่อสัตย์สุจริต  มุ่งมั่นในการทำงาน  ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการทำงานอย่างคุ้มค่า ถูกวิธีและตัดสินใจเลือกอาชีพที่หลากหลายไทย  แนวทางเข้าสู่อาชีพ  การเลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ  ประสบการณ์ในอาชีพ  คุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ  โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ  กระบวนการสร้างความรู้       กระบวนการคิด  กระบวนการกลุ่ม  กระบวนการแก้ปัญหา  กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง  กระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง  กระบวนการจัดการและกระบวนการวิจัยด้วยกิจกรรมโครงงาน  มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการทำงาน  มีความคิดสร้างสรรค์  มีทักษะการจัดการ  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา  ทักษะการแสวงหาความรู้  มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน  มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน  ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว  และเพื่อให้มีทักษะที่จำเป็น  มีประสบการณ์  เห็นแนวทางในงานอาชีพ  ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม  และมีเจตคติที่ดีต่ออาชีพ  จนสามารถอธิบายวิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต  สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะการทำงานร่วมกัน  มีทักษะการจัดการในการทำงาน  มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน  มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการดำรงชีวิต  มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน  ใช้พลังงาน  ทรัพยากรในการทำงาน        อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน  เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  อภิปรายแนวทางเข้าสู่อาชีพที่สนใจ  เลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ  มีประสบการณ์ในอาชีพที่ถนัดและสนใจ  และมีคุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ 
 
รหัสตัวชี้วัด
ง ๑.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖, ม.๔/๗
ง ๒.๑ ม.๔/๔
รวมทั้งหมด  ๘  ตัวชี้วัด
 
 
 
 
 
 
 
โครงสร้างรายวิชา
รหัสวิชา  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น         กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  ภาคเรียนที่  ๒                         เวลา  ๔๐  ชั่วโมง  จำนวน  ๑  หน่วยกิต
ลำดับที่ ชื่อ
หน่วยการเรียนรู้
สาระสำคัญ (key concept) รหัสตัวชี้วัด/
ผลการเรียนรู้
 
เวลา(ชั่วโมง) คะแนน
ความสำคัญและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
 
ความสำคัญของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ชนิดและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุท้องถิ่น
 
 
ง ๑.๑ 
ม.๔/๑, ม.๔/๒,
ม.๔/๓, ม.๔/๔,
ม.๔/๕, ม.๔/๖,
ม.๔/๗
ง ๒.๑ 
ม.๔/๔
อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ความสำคัญและประโยชน์ของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
หลักการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่นอย่างปลอดภัย
ประเภทของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ลักษณะ วิธีการใช้ และการเก็บดูแลรักษา
หลักการเลือกอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ง ๑.๑ 
ม.๔/๑, ม.๔/๒,
ม.๔/๓, ม.๔/๔,
ม.๔/๕, ม.๔/๖,
ม.๔/๗
ง ๒.๑ 
ม.๔/๔
๑๕
  ประเมินผล (สอบกลางภาคเรียน) (๒๐)
 
 
 
 
 
โครงสร้างรายวิชา (ต่อ)
รหัสวิชา  รหัสวิชา ง ๓๒๒๐๗ ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น         กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  ภาคเรียนที่  ๒                         เวลา  ๔๐  ชั่วโมง  จำนวน  ๑  หน่วยกิต
ลำดับที่ ชื่อ
หน่วยการเรียนรู้
สาระสำคัญ (key concept) รหัสตัวชี้วัด/
ผลการเรียนรู้
 
เวลา(ชั่วโมง) คะแนน
การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
 
ชนิดของวัสดุในท้องถิ่น
ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
หลักการการออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ง ๑.๑ 
ม.๔/๑, ม.๔/๒,
ม.๔/๓, ม.๔/๔,
ม.๔/๕, ม.๔/๖,
ม.๔/๗
ง ๒.๑ 
ม.๔/๔
๓๐
การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น การคำนวณต้นทุน-กำไร
การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ง ๑.๑ 
ม.๔/๑, ม.๔/๒,
ม.๔/๓, ม.๔/๔,
ม.๔/๕, ม.๔/๖,
ม.๔/๗
ง ๒.๑ 
ม.๔/๔,
๑๐
ประเมินผล (สอบปลายภาคเรียน) (๒๐)
รวม ๒๐ ๑๐๐
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
กำหนดการเรียนรู้
รายวิชา ง ๓๒๒๐๗  ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  เวลา  ๔๐  ชั่วโมง 
แผน
การสอนที่
ชื่อหน่วย/แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ จำนวน (ชั่วโมง)
การปฐมนิเทศ
 
๑. ปฐมนิเทศ
๒. ทดสอบก่อนเรียน
ความสำคัญและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ๑.๑ ความสำคัญของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
๑.๒ ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
๑.๓ ชนิดและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุท้องถิ่น
อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
๒.๑ ความสำคัญและประโยชน์ของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
๒.๒ หลักการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่นอย่างปลอดภัย
๒.๓ ประเภทของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ลักษณะ วิธีการใช้ และการเก็บดูแลรักษา
๒.๔ หลักการเลือกอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
การประเมินผลกลางภาคเรียน
การออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
 
๓.๑ ชนิดของวัสดุในท้องถิ่น
๓.๒ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
๓.๓ หลักการการออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ๔.๑ การคำนวณต้นทุน-กำไร
๔.๒ การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
การประเมินผลปลายภาคเรียน
รวม                                                                              ๒๐
 
กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้
รายวิชา ง ๓๒๒๐๗  ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  เวลา  ๔๐  ชั่วโมง 
ผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด/จุดประสงค์
ชื่อหน่วย ชั่วโมง  
 
 
จุดประสงค์การเรียนรู้
 
 
 
 
คะแนนที่ประเมิน
ความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรมจริยธรรม รวม คะแนนกลางภาค คะแนนปลายภาค รวมคะแนนทั้งหมด
K P A ๖๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐๐
๑. ความสำคัญ
และประโยชน์
ของผลิตภัณฑ์
จากวัสดุในท้องถิ่น
๑.๑ บอกความสำคัญของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ได้อย่างถูกต้อง (K)
๑.๒ บอกประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ได้อย่างถูกต้อง (K)
๑.๓ ยกตัวอย่างชนิดและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุท้องถิ่นได้ (P)
๑.๔ เห็นความสำคัญแลประโยชน์
ของผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น (A)
๑๐ - ๑๕
๒. อุปกรณ์
เครื่องมือ เครื่องใช้
ในงานประดิษฐ์
ผลิตภัณฑ์จากวัสดุ
ในท้องถิ่น
๒.๑ บอกความสำคัญและประโยชน์ของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่นได้อย่างถูกต้อง (K)
๒.๒ อธิบายหลักการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่นอย่างปลอดภัย
ได้อย่างถูกต้อง (K)
๑๐ ๑๕ - ๒๕
 
 
กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ (ต่อ)
รายวิชา ง ๓๒๒๐๗  ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  เวลา  ๔๐  ชั่วโมง 
ผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด/จุดประสงค์
ชื่อหน่วย ชั่วโมง  
 
 
จุดประสงค์การเรียนรู้
 
 
 
 
คะแนนที่ประเมิน
ความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรมจริยธรรม รวม คะแนนกลางภาค คะแนนปลายภาค รวมคะแนนทั้งหมด
K P A ๖๐ ๒๐ ๒๐ ๑๐๐
๒. อุปกรณ์
เครื่องมือ เครื่องใช้
ในงานประดิษฐ์
ผลิตภัณฑ์จากวัสดุ
ในท้องถิ่น
  ๒.๓ บอกประเภทของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น ลักษณะ วิธีการใช้ และการเก็บดูแลรักษาได้อย่างถูกต้อง (K)
๒.๔ เลือกอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ได้อย่างเหมาะสม (P)
๒.๕ เห็นความสำคัญของการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้
ในงานประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุ
ในท้องถิ่น (A)
             
๓. การออกแบบ
และสร้างผลิตภัณฑ์
จากวัสดุในท้องถิ่น
 
๓.๑ บอกชนิดของวัสดุในท้องถิ่น
ได้อย่างถูกต้อง (K)
๓.๒ ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่นได้ (P)
๓.๓ ออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุในท้องถิ่น
ได้อย่างเหมาะสม (P)
๑๖ ๒๕ - ๑๐ ๓๕
 
 
กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ (ต่อ)
รายวิชา ง ๓๒๒๐๗  ช่างผลิตภัณฑ์วัสดุจากท้องถิ่น  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕  เวลา  ๔๐  ชั่วโมง 
ผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด/จุดประ
เข้าดู : 5543 ครั้ง

โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ เลขที่ 10 ถ. นาเชือก-พยัคฆภูมิพิสัย ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม 44170 โทรศัพท์ 043-779-225 โทรสาร 043-779-225 ขับเคลื่อนโดย THAI.AC เข้าระบบ